Cloud Bursting คืออะไร

Cloud Bursting คือวิธีการกำหนดค่าที่จะใช้ทรัพยากรการประมวลผลบนคลาวด์เมื่อใดก็ตามที่โครงสร้างพื้นฐานในองค์กรมีการใช้งานถึงขีดความสามารถสูงสุด เมื่อองค์กรใช้ทรัพยากรการประมวลผลในศูนย์ข้อมูลภายในของตนจนหมดแล้ว องค์กรจะส่งชุดข้อมูล (Burst) เวิร์กโหลดส่วนที่เกินมาไปยังบริการระบบคลาวด์ภายนอกของบริษัทอื่น Cloud Bursting คือวิธีที่สะดวกและคุ้มค่าในการรองรับเวิร์กโหลดที่มีรูปแบบความต้องการแตกต่างกันไปและเป็นที่ต้องการมากขึ้นเป็นครั้งคราว

เหตุใด Cloud Bursting จึงมีความสำคัญ

แต่ดั้งเดิมองค์กรจะซื้อและรักษาให้มีโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการประมวลผลของตนเอง เช่น เซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และฮาร์ดแวร์เครือข่ายในศูนย์ข้อมูลส่วนตัวหรือในพื้นที่เช่าสำหรับตั้งเซิร์ฟเวอร์ อย่างไรก็ตาม เพราะการถือกำเนิดของผู้ให้บริการระบบคลาวด์ภายนอก เช่น Amazon Web Services ขณะนี้องค์กรจึงสามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานเพื่อการประมวลผลที่สามารถหาได้จากสาธารณะและมีความปลอดภัย สามารถเพิ่มหรือลดทรัพยากรได้ง่ายเพื่อให้เป็นไปตามความต้องการเวิร์กโหลด และสามารถหาได้ในหลายภูมิภาคทั่วโลก การใช้โครงสร้างพื้นฐานที่บุคคลอื่นเป็นผู้บริหารจัดการทั้งหมดกลายเป็นเรื่องที่สะดวกมากขึ้น คำว่าคลาวด์สาธารณะได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อแยกความแตกต่างระหว่างโครงสร้างพื้นฐานภายในกับทรัพยากรระบบคลาวด์ภายนอกซึ่งเป็นของบริษัทอื่น

องค์กรมากมายต้องการใช้โครงสร้างพื้นฐานเพื่อการประมวลผลในองค์กรที่ตนมีอยู่ต่อไป และในขณะเดียวกันก็ต้องการได้รับประโยชน์จากคลาวด์สาธารณะด้วย องค์กรสามารถนำสถาปัตยกรรมระบบคลาวด์แบบไฮบริดที่รองรับ Cloud Bursting ไปใช้จริงเพื่อให้มีความสามารถเข้าถึงทรัพยากรระบบคลาวด์สาธารณะได้เมื่อองค์กรไม่มีความสามารถในการประมวลผลในองค์กรเพิ่มเติมอีกต่อไป เมื่อนำเทคนิค Cloud Bursting มาใช้ ผู้บริโภคระบบคลาวด์จะสามารถดำเนินการดังต่อไปนี้:

  • ใช้ทรัพยากรในเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ลดการลงทุนในต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานในองค์กรเพิ่มเติม
  • ได้รับความสามารถในการปรับขนาดและความยืดหยุ่นที่ได้จากคลาวด์สาธารณะ
  • หลีกเลี่ยงการหยุดชะงักการให้บริการสำหรับแอปพลิเคชันที่สำคัญยิ่งต่อธุรกิจเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของเวิร์กโหลดโดยฉับพลัน

องค์กรใช้ Cloud Bursting เมื่อใด

ต่อไปนี้เป็นกรณีตัวอย่างที่พบได้บ่อยของการใช้ Cloud Bursting:

แคมเปญทางการตลาด

แคมเปญทางการตลาด เช่น การเปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือการลดราคาตามฤดูกาล ทำให้เกิดรับส่งข้อมูลเข้ามามหาศาลและจะลดลงหลังจากที่กิจกรรมสิ้นสุดลง แม้ว่าขีดความสามารถของทรัพยากรในองค์กรของคุณอาจเพียงพอในเวลาอื่น แต่ก็อาจไม่สามารถจัดการกับการรับส่งข้อมูลที่เกินขนาดความสามารถได้ คุณสามารถใช้ Cloud Bursting เพื่อตอบสนองความต้องการที่สูงในช่วงเวลาเหล่านี้โดยไม่จำเป็นต้องซื้อทรัพยากรการประมวลผลเพิ่มเติม

การวิเคราะห์ Big Data

งานการทำโมเดล Big Data เช่น การสร้างภาพ 3 มิติ หรือแมชชีนเลิร์นนิง มักจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรมากขึ้น เช่น ขีดความสามารถของตัวประมวลผลและหน่วยความจำภายใน เพราะงานเหล่านี้ไม่ได้เป็นมาตรฐานปกติ จึงเหมาะที่จะทำ Cloud Bursting ไปยังคลาวด์สาธารณะ และนอกจากนี้ ผู้ให้บริการระบบคลาวด์สาธารณะยังมีทรัพยากรที่ผ่านการปรับให้เหมาะสมเป็นพิเศษเพื่อการวิเคราะห์ Big Data และงานเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ด้วย

Cloud Bursting ทำงานอย่างไร

ผู้ดูแลระบบไอทีกำหนดค่าขีดจำกัดความจุของทรัพยากรคอมพิวเตอร์ในองค์กร เมื่อเวิร์กโหลดของแอปพลิเคชันถึงขีดจำกัด แอปพลิเคชันสลับไปใช้ทรัพยากรระบบคลาวด์สาธารณะ เทคโนโลยี Load Balancer จะเปลี่ยนเส้นทางคำขอขาเข้าสำหรับแอปพลิเคชันไปยังระบบคลาวด์

ต่อไปนี้เป็นประเภทของสถาปัตยกรรม Cloud-Bursting

การส่งชุดข้อมูลโดยผู้ใช้

การส่งชุดข้อมูลโดยผู้ใช้คือวิธีการทำ Cloud Bursting วิธีหนึ่งที่คุณสามารถใช้เพื่อจัดใช้และเลิกใช้บริการของคลาวด์สาธารณะได้ตามต้องการ ซอฟต์แวร์ปรับสมดุลโหลดเฝ้าติดตามการใช้ทรัพยากรและส่งการแจ้งเตือนที่คุณสามารถลงมือดำเนินการตามได้ด้วยตนเอง

ข้อดีและข้อเสีย

องค์กรใช้การส่งชุดข้อมูลโดยผู้ใช้เพื่อนำระบบคลาวด์ขนาดใหญ่แต่ชั่วคราวไปใช้จริงเพื่อการทำงานที่เฉพาะเจาะจง การส่งชุดข้อมูลโดยผู้ใช้ช่วยในการทดสอบโปรเจกต์ Cloud Bursting ใหม่ ๆ อย่างไรก็ตาม การใช้ Cloud Bursting ประเภทนี้เพิ่มความเสี่ยงที่จะมีข้อผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์และความพลั้งเผลอในการนำไปใช้จริง

การส่งชุดข้อมูลอัตโนมัติ

การส่งชุดข้อมูลอัตโนมัติใช้เครื่องมือ Cloud Bursting เพื่อจัดใช้ทรัพยากรจากผู้ให้บริการระบบคลาวด์สาธารณะของคุณโดยอัตโนมัติ คุณสามารถกำหนดนโยบายที่จะระบุว่าเครื่องมือจะจัดการกับความต้องการที่มากกว่าอย่างไร เครื่องมือจะเปลี่ยนแปลงการจัดใช้ทรัพยากรคลาวด์เมื่อมีความจำเป็น และเลิกใช้เมื่อความต้องการลดลง

ข้อดีและข้อเสีย

เครื่องมือ Cloud Bursting อัตโนมัติสามารถสร้าง เพิ่มขนาด ลดขนาด และลบทรัพยากรระบบคลาวด์โดยอัตโนมัติ เครื่องมือเช่นนี้ลดความเสี่ยงที่จะมีข้อผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ และใช้ทั้งโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะและโครงสร้างพื้นฐานในองค์กรของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ

การปรับสมดุลโหลดแบบกระจาย

การปรับสมดุลโหลดแบบกระจายคือแนวทาง Cloud Bursting แนวทางหนึ่งที่ทำงานตามเวิร์กโหลดไปพร้อม ๆ กันระหว่างโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์สาธารณะและศูนย์ข้อมูลของคุณ คุณต้องตั้งค่าการนำไปใช้จริงที่สแตนด์บายในคลาวด์สาธารณะโดยมีขีดความสามารถขั้นต่ำจำนวนหนึ่ง และคุณยังต้องกำหนดขีดจำกัดของโหลดในโครงสร้างพื้นฐานในองค์กรของคุณ แล้วกระจายโหลดตามที่จำเป็น การปฏิบัติการปรับสมดุลโหลดจะแชร์การรับส่งข้อมูลระหว่างโครงสร้างพื้นฐานในองค์กรของคุณและคลาวด์สาธารณะ จึงปรับขนาดการนำไปใช้จริงที่สแตนด์บายโดยอัตโนมัติเพื่อจัดการกับโหลดที่เพิ่มขึ้น

องค์กรจะสามารถนำ Cloud Bursting ไปใช้อย่างมีประสิทธิผลได้อย่างไร

เพื่อให้นำ Cloud Bursting ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิผล องค์กรจำเป็นต้องใช้คุณสมบัติต่อไปนี้:

การแสดงผล

บริการของผู้ให้บริการระบบคลาวด์ควรรวมถึงการแสดงผลอย่างละเอียดเพื่อปรับเปลี่ยนการส่งชุดข้อมูล การเฝ้าติดตามการใช้ทรัพยากรอย่างละเอียดจะทำให้องค์กรสามารถเอาชนะความซับซ้อนและเพิ่มขีดความสามารถของระบบคลาวด์แบบไฮบริดของตนได้

ประสิทธิภาพ

องค์กรจำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์และเครื่องมือที่สามารถจัดประสานทรัพยากรการประมวลผลบนคลาวด์ได้โดยอัตโนมัติ การปรับสมดุลโดยผู้ใช้จะมีประสิทธิผลในการปฏิบัติการเล็ก ๆ และกรณีการใช้ที่เฉพาะเจาะจงเท่านั้น องค์กรจำเป็นต้องใช้การดำเนินการอัตโนมัติหากต้องการปรับขนาดอย่างมีประสิทธิผล

การควบคุม

คุณจำเป็นต้องมีความสามารถในการเฝ้าติดตามเพื่อติดตามทรัพยากรและทำให้แน่ใจว่ามีการจัดใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสมโดยไม่ขัดจังหวะการให้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ต้องการการใช้งานสูง เครื่องมือและบริการ Cloud Bursting ที่ใช้การเฝ้าติดตามและการรายงานจะลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในระยะยาว

คุณจะสามารถนำ Cloud Bursting มาใช้บน AWS ได้อย่างไร

บริการระบบคลาวด์แบบไฮบริดของ AWS มอบประสบการณ์การใช้ AWS ที่สอดคล้องกันระหว่างทรัพยากรในองค์กรและบน AWS Cloud เลือกจากชุดบริการที่มีหลากหลายที่สุดเพื่อสร้างสถาปัตยกรรม Cloud Bursting ที่ตรงตามความต้องการและกรณีการใช้งานที่เฉพาะเจาะจงของคุณ บริการระบบคลาวด์รวมถึงบริการประมวลผล ระบบเครือข่าย การจัดเก็บข้อมูล การรักษาความปลอดภัย ข้อมูลระบุตัวตน การผสานรวมข้อมูล การบริหารจัดการ การเฝ้าติดตาม และการปฏิบัติการ

ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้บริการเหล่านี้:

  • AWS Storage Gateway มอบการเข้าถึงพื้นที่จัดเก็บบนระบบคลาวด์แบบแทบไม่มีข้อจำกัดให้กับแอปพลิเคชันในองค์กรของคุณ
  • Amazon CloudWatch เป็นบริการที่มีความสามารถในการเฝ้าดูแลซึ่งรวมการแสดงภาพทรัพยากรและบริการที่ทำงานอยู่บน AWS และในองค์กรไว้ในที่เดียว
  • AWS Systems Manager คือศูนย์รวมที่คุณสามารถใช้เพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงานระหว่างทรัพยากรของ AWS และในองค์กรของคุณ

เริ่มต้นใช้งาน Cloud Bursting บน AWS ด้วยการสร้างบัญชี AWS วันนี้

ก้าวต่อไปของ Cloud Bursting กับ AWS

ดูแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ Cloud Bursting 
ลงชื่อสมัครใช้บัญชีฟรี

รับสิทธิ์การเข้าถึง AWS Free Tier ได้ทันที 

ลงชื่อสมัครใช้งาน 
เริ่มต้นการสร้างใน Console

เริ่มต้นการสร้างด้วย AWS hybrid cloud บนคอนโซลการจัดการของ AWS

ลงชื่อเข้าใช้